• วินด์ ไรเดอร์ สิ่งสกปรกในอากาศ


    04/05/2018 13:16

    จำนวนครั้งที่เปิดอ่าน : 716

  • image

    ปัญหามลพิษ

    ซึ่งเกี่ยวข้องกับอนุภาคฟุ้งกระจายไปในอากาศส่วนใหญ่เป็นพวกฝุ่น ซึ่งสามารถจำแนกประเภทตามองค์ประกอบทางเคมีออกเป็น 2 ประเภท คือ
    1. ฝุ่นที่เป็นสารอินทรีย์และ ฝุ่นที่เป็นสารอนินทรีย์ ฝุ่นที่เป็นสารอินทรีย์ นอกจากจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ จากพืชและสัตว์ แล้วยังรวมถึงสารที่สังเคราะห์ขึ้นด้วย เช่น สีย้อม ยาฆ่าแมลง วัตถุระเบิด เป็นต้น ฝุ่นอินทรีย์ที่ไม่ได้มาจากสิ่งมีชีวิต พวกนี้จะทำให้ เกิดอาการแพ้เฉพาะบางคน สำหรับฝุ่นอินทรีย์ที่มาจากสิ่งมีชีวิต ได้แก่ พวกเชื้อรา และแบคทีเรีย ทำให้เกิดโรคบาดทะยัก โรคคอตีบ วัณโรค ฝีดาษ ไทฟอยด์ เป็นต้น
    2. ฝุ่นที่เป็นสารอนินทรีย์ เช่น ฝุ่นซิลิกา จากทราย หิน และใยหิน ซึ่งมีอนุภาคแข็งคมจะเป็นอันตรายแก่เนื้อในหลอดลม และปอด ฝุ่นอีกชนิดหนึ่งที่เป็นพิษ และทำให้ระคายเคือง ได้แก่ ฝุ่นจากโลหะหนัก และสารประกอบของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แมงกานีส และแคดเมี่ยม เป็นต้น
      image
    • พิษของตะกั่ว ซึ่งเกิดจากโรงงานทำแบตเตอรี่ เผาแบตเตอรี่จะทำลาย ระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้มีอาการมึนงง รับประทานอาหารได้น้อย ถ้ามีปริมาณของตะกั่ว ในเลือดมากจะทำให้หมด ความรู้สึกและในที่สุดจะตาย พิษของแมงกานีสซึ่งเกิดจากโรงงานทำถ่านไฟฉาย โรงงานถลุงแร่แมงกานี สถ้าอยู่ในร่างกายมากเกินขนาด จะทำลายประสาทส่วนกลาง ทำให้ทรงตัวไม่อยู่ จะหกล้มง่าย และมีอารมณ์อ่อนไหว แคดเมี่ยมซึ่งเกิดจาก โรงงานอุตสาหกรรม ทำยา อุตสาหกรรมชุบโลหะ พิษของแคดเมี่ยมจะทำให้เป็นโรคกระดูกและโรคหัวใจได้

    วิธีการที่ฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย มี 3 วิธี คือ

    1. ทางจมูก โดยการหายใจเข้าไป ซึ่งฝุ่นละอองจะเข้าสู่ร่างกายโดยวิธีนี้มากที่สุดตามปกติในรูจมูกจะมีขนจมูกคอยกรองฝุ่นละอองออกชั้นหนึ่งอยู่แล้ว ถ้าปริมาณฝุ่นมีไม่มากนักหรือเป็นชิ้นใหญ่ก็จะทำการกรองได้เองตามธรรมชาติ แต่ถ้าปริมาณฝุ่นมีมากเกินไป ก็ควรจะมีการป้องกันโดยสร้างระบบขจัดฝุ่นละออง หรือใช้หน้ากากกรองฝุ่นละออง
    2. ทางปาก วิธีการนี้จะมีฝุ่นละอองติดเข้าไปไม่มากนัก นอกจากจะปลิวตกลงไปในอากาศแล้วกินเข้าไป ซึ่งส่วนมากจะไม่เป็นอันตราย ยกเว้นฝุ่นละอองที่เป็นพิษต่อร่างกาย
    3. ทางผิวหนัง ฝุ่นละอองจะปลิวมาติดอยู่ตามผิวหนัง จะดูดซับน้ำ และน้ำมันออกจากผิวหนัง ทำให้ระคาย ผิวแห้ง ก่อให้เกิดความรำคาญ ฝุ่นบางชนิดจะทำให้บางคนแพ้เป็นผื่นคันได้ ส่วนปริมาณสารพิษที่จะซึมเข้าสู่ร่างกาย ตามปกติแล้วจะมีไม่มากนัก ยกเว้นพวกยาฆ่าแมลง

    การจำแนกความเป็นพิษเนื่องจากฝุ่นละออง จำแนกได้เป็น 2 ประเภทคือ

    1. ฝุ่นละอองที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญ จะเป็นฝุ่นละอองธรรมดาที่มีความหนาแน่นไม่มากนัก ซึ่งจะก่อความเดือดร้อนดังนี้
      ระคายเคือง รำคาญ ซึ่งจะทำให้ระคายตา มองไม่ได้ชัดเกิดอาการคันที่ผิวหนังผิวหนังแห้ง หรือเหนียวเหนอ ะหนะ และทำให้อึดอัด หายใจไม่สะดวก ทำความสกปรกแก่บ้านเรือน เสื้อผ้า และสิ่งของเครื่องใช้และสำหรับฝุ่นที่เป็นสารอินทรีย์ จะก่อให้เกิดการบูด เน่าเหม็น กรณีที่ถูกน้ำ เช่น ฝนตก เป็นต้น
    2. ฝุ่นละอองที่ก่อความเดือดร้อนอันตราย ซึ่งส่วนมากจะเป็นฝุ่นที่เป็นพิษ และฝุ่นละอองธรรมดาที่มีความหนาแน่นหรือปริมาณมาก ซึ่งจะก่อความเดือนร้อนดังนี้ เป็นอันตรายต่อร่างกาย เมื่อเวลาเข้าสู่ร่างกาย เช่น ฝุ่นละอองของพวกสารโลหะหนัก ฝุ่นสารเคมี ฝุ่นยาฆ่าแมลง หรือฝุ่นพวกใยหิน ไฟเบอร์หรือฝุ่นฝ้ายที่เมื่อเวลาเข้าปอดแล้วปอดไม่สามารถขับออกมาได้ จะทำให้เป็นโรคเกี่ยวกับปอดได้ ติดไฟได้ ฝุ่นละอองบางชนิดที่มีความละเอียดและปริมาณมาก ๆ เมื่อฟุ้งกระจายจะสามารถติดไฟลุกไหม้ขึ้นได้ เช่น ฝุ่นแป้ง เป็นต้น ระเบิดได้ ในกรณีที่มีแรงอัดหรือแรงดันมาก ๆเช่น ในกระพ้อตักข้าวโพดที่มีแรงอัดฝุ่นไปในทางเดียวกัน ถ้าไม่มีการดูดลมจากหัวกระพ้อเพื่อทำให้แรงดันในกระพ้อต่ำกว่าบรรยากาศข้างนอก จะทำให้เกิดการระเบิดเนื่องจากฝุ่นละอองได้

    วิธีการวัดปริมาณฝุ่นละออง จะวัดเป็นหน่วย

    1. มิลลิกรัม/อากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร (มก/ม3) mg/NM3 (milligram/mormal Cubic metre) จะใช้วิธีการเก็บอากาศผ่านผ้ากรอง กรองเอาฝุ่นไว้ต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร เทียบกับอุณหภูมิ 25oC
    2. ppm. (part per million) (ส่วนในล้านส่วน) ซึ่งส่วนมากจะใช้วัดค่าของก๊าซ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับ มก./ม3 ดังนี้
      มก/ม3 = ppm x น้ำหนักโมเลกุล /24.5
    3. วัดเป็นไฟเบอร์ ใช้วัดพวกฝุ่นละอองที่เป็นไฟเบอร์ เช่น ใยหิน (asbestos) ฝ้าย (cotton) โดยใช้กล้องส่อง นับเป็นไฟเบอร์

    ค่ามาตรฐานในการควบคุมปริมาณฝุ่นละออง

    ค่า T.L.V. (Threshold Limit Value) จะเป็นการวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองหรือก๊าซในบริเวณทำงาน โดยถือเป็นค่าจำกัดสูงสุดในบริเวณที่ที่คนงานปฏิบัติงานอยู่ ที่ผู้ปฏิบัติงานสามารถจะรับได้เป็นเวลา 8 ชั่วโมงต่อวันทำงาน ซึ่งได้มาจากหลักความจริงที่ว่าร่างกายคนเราสามารถกำจัดแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายตลอดเวลา เช่น ค่า T.L.V. สำหรับฝุ่นธรรมดาที่ไม่เป็นพิษจะเท่ากับ 15 มก/ม3 เป็นต้น
    ค่า Emission จะเป็นการวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองหรือก๊าซที่ปล่อยออกทางปล่องเพื่อให้เจือจางลงมาจนกว่าจะตกถึงพื้น ซึ่งจะเป็นค่าจำกัดสูงสุดของปริมาณสารที่จะปล่อยออกทางปล่องได้โดยต้องมีส่วนสัมพันธ์กับความเร็วลม ความสูงของปล่อง สิ่งแวดล้อมรอบข้าง ค่า T.L.V. ปริมาณสารที่มีอยู่ดั้งเดิมโดยรอบโรงงาน และค่า T.L.V.
    ค่า Ambient จะเป็นการวัดค่าปริมาณฝุ่นละออง หรือก๊าซที่มีอยู่นอกรั้วโรงงานโดยถือเป็นค่าจำกัดสูงสุดที่จะยอมให้ปริมาณของสารนั้นมีอยู่ในสภาวะแวดล้อมปกติ

    การป้องกันและการขจัดมลพิษทางอากาศมีกรรมวิธีและเทคนิคประกอบดังนี้

    ควบคุมหรือขจัดที่ ต้นกำเนิดไม่ ให้มลพิษเกิดขึ้นได้ หรือพยายามทำให้เกิด ในปริมาณน้อยโดยทำลาย เปลี่ยนแปลงหรือดักจับเอามลพิษเหล่านั้นออกก่อน เพื่อให้อยู่ในระดับเหมาะสม ที่จะระบายออกได้ หรือในบางกรณีอาจแก้ไขโดยเปลี่ยนวัสดุหรือวัตถุดิบ เปลี่ยนแปลง ระบบการผลิต หรือวิธีการผลิต แก้ไขเครื่องจักรกล ควบคุมดูลแล เครื่องจักรกลให้มี ประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้เกิดการเจือจางตามธรรมชาติ หลังจากที่ระบายออกมาแล้ว เช่น การต่อปล่องระบายอากาศให้สูงขึ้น หรือการกำหนดที่ตั้งของโรงงาน ให้อยู่ในที่ที่มีอากาศ ถ่ายเทได้สะดวก หรือจัดเวลาการผลิต ให้เหมาะสมกับสภาพ ของการพัดของลม และภูมิประเทศ ก่อสร้างระบบขจัดมลพิษทางอากาศ ซึ่งควรจะเลือกเป็นวิธีสุดท้ายในการแก้ปัญหาหาก วิธีดังกล่าวข้างต้น ไม่สามารถจะทำได้ ก็ใช้วิธีป้องกันบุคคล โดยใช้อุปกรณ์ ในการป้องกันแทน

บริษัท วินด์ไรเดอร์ คือ ผู้นำนวัตกรรมด้าน ระบบบำบัดอากาศ ที่ใช้สำหรับ กำจัดฝุ่น และ มลภาวะ ในอากาศ รวมถึง ระบบป้องกัน อาทิเช่น เครื่องดักฝุ่นอุตสาหกรรม หรือ เครื่องกรองฝุ่น สำหรับ โรงงานอุตสาหกรรม ทั้งขนาดเล็ก ไปจนถึง ขนาดใหญ่ เราประสบความสำเร็จ และ มีความเชี่ยวชาญ ในด้านอุตสาหกรรม การกรองฝุ่น ระบบบำบัดอากาศ ด้วยประสปการณ์ ที่ยาวนาน มากกว่า 20 ปี